วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

9 เรื่องยิ่งใหญ่ พ่อหลวงของแผ่นดิน


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี บุคคลสำคัญที่สุดของแผ่นดินไทย ไทยรัฐออนไลน์ รวม 9 เรื่องยิ่งใหญ่มาให้รู้กัน...
1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470  
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพในราชสกุล มหิดล อันเป็นสายหนึ่งในราชวงศ์จักรี ณ เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เสด็จพระราชสมภพที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนีกำลังทรงศึกษาวิชาการอยู่ที่นั่น
2.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ พระชนมายุยังไม่เต็ม 19 พรรษา ไม่ทรงรู้พระองค์มาก่อนว่าจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินไทย และขณะนั้นกำลังทรงศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยโลซาน ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
3.เถลิงถวัลยราชสมบัติ 9 มิถุนายน 2489
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 สืบแทนสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งเสด็จสวรรคตโดยกะทันหัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เสวยราชย์นานที่สุดในโลกที่มีพระชนมชีพอยู่ และยาวนานที่สุดในประเทศไทย
4.ในหลวงไม่ทิ้งประชาชน
เดิมทีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่า จะทรงครองราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาจัดงานพระบรมศพพระบรมเชษฐาให้สมเกียรติเท่านั้น แต่ความจงรักภักดีของเหล่าอาณาประชาราษฎร์ที่มีต่อพระองค์อย่างแน่นแฟ้น ยังผลให้ตัดสินพระราชหฤทัยรับราชสมบัติ  
ซึ่งมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในวันเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489 เพื่อทรงศึกษาวิชาการเพิ่มเติม ระหว่างประทับรถพระที่นั่งไปสู่สนามบินดอนเมือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ยินเสียงราษฎรคนหนึ่งตะโกนลั่นว่า “ในหลวง อย่าทิ้งประชาชน” ทำให้ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า “ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้”
5.การตัดสินพระทัยรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์
การตัดสินพระทัยรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ ไม่เพียงแต่จะทำให้ประเทศไทยและคนไทยคลายความโศกเศร้าที่ต้องเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลไปเท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศไทยและคนไทยได้พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ผู้ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะอุทิศทั้งพระวรกายและพระหฤทัย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทย ในทันทีที่ทรงรับราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาจากวิชาวิทยาศาสตร์ไปเป็นวิชาสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ โดยที่ทรงเห็นว่าเป็นวิชาที่สำคัญและจำเป็นสำหรับตำแหน่งประมุขของประเทศ
6. พระราชกรณียกิจบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน
ตลอดระยะเวลาที่ทรงอยู่ในฐานะพระมหากษัตยริย์ พระราชกรณียกิจทั้งปวงที่ทรงปฏิบัติมานั้น เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้เวลาคิดถึงแต่การที่จะบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน คนไทยส่วนใหญ่เป็นกสิกร อาศัยดินและน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพ เพราะฉะนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องดินและน้ำ ยังทรงคิดค้นหาวิธีที่จะให้กสิกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นดินและแหล่งน้ำในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปสารทิศใดก็ตาม ทรงศึกษาทั้งสองเรื่องอย่างละเอียดลึกซึ้ง
7. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพบหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ครั้งแรก
เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาคนโตของพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพบหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ครั้งแรกที่กรุงปารีส เมื่อ พ.ศ.2490 ขณะนั้นพระบิดาทรงเป็นอัครราชทูตและครอบครัวได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเสมอ
เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2493 ได้เกิดงานพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสจัดขึ้น ณ พระตำหนักใหม่วังสระปทุม วันนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระตำหนักชั้นบนพร้อมด้วยหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพแด่สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าตอนกลางคืนมีงานพระราชทานเลี้ยงเป็นการภายใน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ในหมู่พระประยูรญาติและข้าราชบริพารใกล้ชิดไม่เกิน 20 คน นับเป็นงานฉลองพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสที่เล็กที่สุดงานหนึ่ง  

8.เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
ต่อมา วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตยริย์พระองค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเปล่งเสียงพระปฐมบรมราชโองการว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม หลังจากนั้น มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
9.พ่อของแผ่นดิน ทศพิธราชธรรม
ทศพิธราชธรรม หรือ ราชธรรม 10 เป็นธรรมสำหรับพระเจ้าแผ่นดิน หรือคุณสมบัติของนักปกครองที่ดี สามารถปกครองแผ่นดินโดยธรรมและยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่ประชาชน มีด้วยกัน 10 ประการ คือ
1. ทาน การให้ทรัพย์สินสิ่งของ
2. ศีล ความประพฤติดีงาม
3.ปริจจาคะ ความเสียสละ
4.อาชชวะ ความซื่อตรง
5.มัททวะ ความอ่อนโยน
6.ตปะ ความทรงเดชเผากิเลสตัณหา ไม่หมกมุ่นในความสุขสำราญ
7.อักโกธะ ความไม่กริ้วโกรธ
8.อวิหิงสา ความไม่ข่มเหงเบียดเบียน
9.ขันติ ความอดทนเข้มแข็ง ไม่ท้อถอย
10.อวิโรธนะ ความไม่คลาดธรรม

ที่มา : หนังสือ พระเจ้าอยู่หัว กระทรวงศึกษาธิการ 
www.thairath.co.th/content/753036

"การแต่งกายไว้ทุกข์"


การแต่งกายไว้ทุกข์
         
          การแต่งกายไว้ทุกข์ เพื่อไว้อาลัย จะต้องแต่งอย่างไรถึงจะดูสุภาพ วันนี้กระปุกดอทคอมมีแนวการแต่งตัวไว้ทุกข์มาเป็นแนวทางปฏิบัติให้ทราบกันค่ะ


          ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้งเนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต พสกนิกรชาวไทยจึงพร้อมใจกันแต่งกายไว้ทุกข์ด้วยชุดสีขาว-ดำ ทั้งนี้เพื่อความถูกต้อง และถูกกาลเทศะ การแต่งกายไว้ทุกข์เพื่อถวายความอาลัยควรจะปฏิบัติอย่างไร กระปุกดอทคอมมีแนวทางมาบอกให้ทราบกันค่ะ

          สำหรับ "การแต่งกายไว้ทุกข์" ตามจารีตประเพณีแต่โบราณของไทย มักจะแต่งกายในชุดขาว-ดำ เพื่อเป็นการไว้อาลัยและเคารพต่อผู้ที่จากไป โดยคนที่ใส่สีดำนั้นจะเป็นการบ่งบอกว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ มีตำแหน่งสูง หรือสูงวัยกว่าผู้ตาย ส่วนสีขาวคือผู้ที่อายุน้อยกว่า หรือมีตำแหน่งต่ำกว่าผู้ตาย ทั้งนี้ต่อมาได้มีการนำวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา การแต่งกายไว้ทุกข์จึงเปลี่ยนเป็นสีดำ หรือขาว-ดำ แต่ในกรณีของพระมหากษัตริย์นั้น ประชาชนควรใส่สีดำเป็นพื้นฐาน หรือถ้าหากไม่มีจริง ๆ อาจใส่สีขาวหรือสีเทาสลับกันได้ แต่ควรเป็นแบบที่สุภาพ และไม่มีลวดลาย

การแต่งกายไว้ทุกข์แบบสุภาพควรแต่งอย่างไร

การแต่งกายไว้ทุกข์
         
          เสื้อ - 
ไม่ควรใส่เสื้อที่รัดรูปมากจนเกินไป ควรเป็นเสื้อแบบมีแขน คอไม่กว้าง ไม่มีลวดลาย และไม่ควรมีตราสัญลักษณ์อยู่บนเสื้อ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และผิดกาลเทศะ สำหรับสีนั้นควรใส่สีดำเป็นหลัก แต่ถ้าหากไม่มีจริง ๆ อาจใส่สีขาวหรือสีเทา และติดริบบิ้นสีดำไว้อาลัยที่หน้าอกด้านซ้ายแทนได้

การแต่งกายไว้ทุกข์
         
          กางเกง - 
ควรเป็นกางเกงขายาว หากใส่ไว้อาลัยทั่วไปสามารถใส่กางเกงยีนส์ได้ แต่ไม่ควรเป็นกางเกงยีนส์ขาด และควรใส่สีเข้มเท่านั้น ทั้งนี้ในกรณีที่ใส่ไปร่วมถวายสักการะพระบรมศพควรเป็นกางเกงขายาวแบบไม่รัดรูป ไม่ควรใส่กางเกงยีนส์หรือสกินนี่

การแต่งกายไว้ทุกข์
          
          กระโปรง หรือชุดเดรส - 
ควรเป็นกระโปรงที่ยาวคลุมเข่า แบบที่สุภาพเรียบร้อย สำหรับชุดเดรสที่เป็นแขนกุดควรหาเสื้อนอกสีดำแบบเรียบ ๆ มาคลุมทับ อย่างเช่น เสื้อคาร์ดิแกน หรือเสื้อสูท เป็นต้น

การแต่งกายไว้ทุกข์
          
          รองเท้า - 
รองเท้าควรเป็นแบบที่สุภาพ มีปิดด้านหน้าและด้านหลัง อาจจะเป็นสีดำหรือสีเรียบ ๆ ไม่มีการประดับตกแต่งแวววาว

          นอกจากนี้ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้ออกประกาศแนวทางเรื่องการแต่งกายไว้ทุกข์เนื่องด้วย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต โดยระบุว่า
          ตามที่ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 และรัฐบาลได้กำหนดให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป

          เพื่อให้การแต่งกายไว้ทุกข์เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต เป็นไปด้วยความเหมาะสมและสอดคล้องกับระเบียบการแต่งกายไว้ทุกข์ในงานศพ พุทธศักราช 2484 จึงเห็นสมควรกำหนดการแต่งกายของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไว้ดังนี้
1. กรณีไปร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพ

          ให้ข้าราชการแต่งเครื่องแบบตามหมายรับสั่งหรือหมายกำหนดการของพระราชวัง โดยให้ใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้าโปร่งสีดำ ขนาดกว้างระหว่าง 7 ถึง 10 เซนติเมตร พันแขนเสื้อเบื้องบน

2. กรณีไม่ได้ร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพ

          2.1 กรณีแต่งเครื่องแบบปฏิบัติราชการ (เครื่องแบบสีกากีคอพับ และเครื่องแบบสีกากีคอแบะ) การแต่งเครื่องแบบไม่ต้องใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้าโปร่งสีดำดังกล่าวพันแขนเสื้อซ้ายเบื้องบน

          2.2 กรณีการแต่งกายทั่วไป ในการปฏิบัติราชการ

          2.2.1 ข้าราชการชาย ให้แต่งด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวหรือสีดำ ผูกเนคไทสีดำ หากจะสวมเสื้อสูทหรือเสื้อคลุมให้ใช้สีดำ โดยอาจใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้าโปร่งสีดำดังกล่าวพันแขนเสื้อเบื้องบนได้ตามสมควร

          2.2.2 ข้าราชการหญิง ให้แต่งกายสุภาพตามรัฐพิธี โดยให้ใช้เครื่องดำล้วน

          3. กรณีข้าราชการที่มีกฎหมายกำหนดไว้อย่างอื่นเป็นการเฉพาะให้แต่งกายตามนั้น
          4. กรณีการแต่งกายของพนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ให้อนุโลมตามข้อ 1 และข้อ 2



ข้อมูลจาก : สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี http://women.kapook.com/view158908.html
ภาพจาก : dahong.co.kr, judbibian.co.kr, stylenanda.com, ggsing.com, dodostyle.com, ssunny.co.kr, michyeora.com, 09women

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก

สำหรับ 10 อันดับเมืองน่าอยู่ของโลกเรียงตามลำดับ ดังนี้

1.เวียนนา ออสเตรีย

2.ซูริค สวิสเซอร์แลนด์

3.โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์

4.มิวนิค เยอรมนี

5.ดืสเซลดอร์ฟ เยอรมนี

6.แวนคูเวอร์ แคนาดา

7.แฟรงเฟิร์ท เยอรมนี

8.เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์

9.เบิร์น สวิสเซอร์แลนด์


10.โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก

นกพิราบแฟนซี สวยที่สุดในโลก


นกพิราบแฟนซี่ สวยที่สุดในโลก( Fancy pigeon )
Fancy pigeon นกพิราบแฟนซี เป็น นกพิราบที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ มาจากนกพิราบธรรมดาทีเรียกว่า นกพิราบหิน( Rock pigeon) จนเกิดมีลักษณะเด่นต่างๆ ทั้งขน สี รูปร่าง และนิสัย และสุดยอดงานประกวดนกพิราบที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องที่ งานแสดงนกพิราบนานาชาติเยอรมัน (German National Pigeon Show) ที่เมือง Nurnberg ซึ่งในปี 2006 มีนกเข้าร่วมงานกว่า 33,500 ตัว
นกพิราบแฟนซี สายพันธุ์ต่างๆ สวยที่สุดในโลกกลุ่มนกพิราบ Asian feather and voice pigeons
นกพิราบ สวยที่สุดในโลก
นกพิราบหางพัด (Fantail Pigeon ) ลักษณะเด่น ของสายพันธุ์ คือ แพนหางขนาดใหญ่เหมือนพัด
นกพิราบ สวยๆ
นักพิราบสายพันธุ์ Frillback Pigeon ลักษณะเด่นของสายพันธุ์ คือ ขนหยิกบริเวณลำตัว

นกพิราบ แปลก
นกพิราบน้ำแข็ง (Ice Pigeon) ลักษณะเด่นของสายพันธุ์ คือขนสีน้ำเงินแบบน้ำแข็ง และขนบริเวณขาสุดไฮโซ
นก สวย
นกพิราบนักเป่าทรัมเป็ท (Trumpeter Pigeon) ลักษณะเด่นของสายพันธุ์ คือ เสียงร้องที่เหมือนเสียงเป่า ทรัมเป็ท
นกพิราบสายพันธุ์ Jacobin ลักษณะเด่นของนกพิราบสายพันธุ์นี้คือ ขนบริเวณลำคอ
กลุ่ม นกพิราบสี ( Color Pigeon )
นกพิราบ Archangel ลักษณะเด่นของสายพันธุ์ คือสีขน สีทองแดง
นกพิราบ Danish Suabian ลักษณะเด่นของาสายพันธุ์คือ สีขนที่ มีทั้งสีเงิน สีน้ำเงิน สีดำ สีแดง สีเหลือง และบริเวณหัวจะมีหงอน
นกพิราบแซ็กซอน(Saxon Field) นกพิราบสายพันธุ์นี้มีลักษณะพื้นฐานของหลายๆสายพันธุ์รวมกัน
กลุ่ม Frill and Owl
พิราบนกฮูกอัฟริกา (African Owl ) ลักษณะเด่นคือ ตัวเล็ก หลังสั้น จงอยปากสั้นเล็ก
กลุ่มนกพิราบสื่อสาร Homer
นกพิราบมังกร ( Dragon ) เป็นนกพิราบที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ในการแข่งขัน บินกลับรัง ( Racing Homer )
กลุ่มไก่ (Hen)
นกพิราบ Modena ลักษณะเด่นคือมีรูปร่างคล้ายไก่ตัวผู้ เพียงแค่ไม่มีหงอนเท่านั้นเอง
กลุ่ม Pouters and Croppers
นกพิราบ Gaditano ลักษณะเด่นคือ ถุงบริเวณคอ และหน้าอกของนกพิราบ
นกพิราบ Pigmy Pouter ลักษณะเด่นคือสูงยาวเข่าดี และถุงบริเวณใต้ลำคอ
กลุ่ม Exhibition Tumblers
นกพิราบบูดาเพสท์หน้าสั้น (Budapest Short Face Tumbler) ลักษณะเด่น คือหน้าสั้น ก็ตามชื่อสายพันธุ์
นกพิราบหมวกกันน็อก ( Helmet Pigeon) มีทั้งแบบหน้าปานกลาง แบบหน้าสั้น และแบบหัวล้านไร้ขน ดังตัวในรูป
กลุ่ม Flying Tumblers and Highfliers
นกพิราบแฟนซี
นกพิราบ Danzig Highflyer
กลุ่มอื่นๆ Utility pigeons
นกพิราบแฟนซี
นกพิราบ French mondain
นกพิราบแฟนซี
นกพิราบคิง เป็นนกพิราบที่ใหญ่ นิยมเลี้ยงไว้เพื่อใช้เป็นอาหาร